Caltrate Plus 60 เม็ด แคลเทรต พลัส ผสมวิตามินดีและเกลือแร่ ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมแคลเซียม

หมวดหมู่ วิตามินดี Vitamin D
ราคาปกติ 440.00 บาท
ลดเหลือ 330.00 บาท
อัพเดทล่าสุด 21 เม.ย. 2556
ความพึงพอใจ ยังไม่มีความคิดเห็น
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า

Caltrate Plus 60 เม็ด

แคลเทรต พลัส ผสมวิตามินดีและเกลือแร่

 

แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่พบมากในร่างกาย ส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในกระดูก ฟัน เล็บและอื่นๆ หน้าที่หลักของแคลเซียม คือ ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของกระดูกและฟัน

แคลเซียมช่วยกระบวนการต่างๆในร่างกาย ดังนี้

  • ช่วยฟอสฟอรัสและแมกนีเซียมเพื่อสร้างกระดูกและฟัน รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
  • รักษาการเต้นของหัวใจ การหดตัวของกล้ามเนื้อ 
  • ช่วยคลายความเครียด
  • ช่วยในการทำงานของฮอร์โมนต่างๆ

การทำงานของแคลเซียม

  • ป้องกันอาการนอนไม่หลับ
  • รักษาสุขภาพฟัน
  • รักษาจังหวะการเต้นของหัวใจ
  • รักษาสุขภาพกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกหักง่าย
  • ทำให้กล้ามเนื้อยืดหดตัวอย่างมีระเบียบ
แคลเซียมเหมาะสำหรับ
  • เด็กในระยะเจริญเติบโต
  • สตรีในระยะตั้งครรภ์
  • สตรีในระยะให้นมบุตร
  • ผู้มีฟันไม่แข็งแรง ขาเป็นตะคริว
  • ผู้มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย
  • ผู้ต้องการป้องกันโรคกระดูกพรุน

ส่วนประกอบ Caltrate Plus แคลเทรต พลัส

  • Vitamin D 400 IU 
  • Calcium 600 mg 
  • Magnesium 50 mg 
  • Zinc 7.5 mg 
  • Copper 1 mg 
  • Manganese 1.8 mg 
  • Boron 250 mcg
วิธีรับประทาน Caltrate Plus รับประทานวันละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร
 
Caltrate Plus ขนาด 60 เม็ด 
สินค้านี้ยังไม่มีคนวิจารณ์
ชื่อ
คำถาม
รายละเอียด
  • ถาม
สินค้านี้ยังไม่มีคนถามคำถาม

วิธีการชำระเงิน

หลังทำรายการสั่งซื้อเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถชำระเงินได้เลยครับ ไม่จำเป็นต้องรอการติดต่อกลับจากทางร้านให้เสียเวลา เพราะทางร้านมีระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ  สินค้าที่กดทำรายการสั่งซื้อได้จะมีของพร้อมส่งทุกรายการ  โดยท่านสามารถเลือกชำระเงินผ่านตู้ ATM, เคาร์เตอร์ธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ หรือ Internet Banking ที่ท่านสะดวกเข้ามาที่บัญชีที่ระบุไว้ด้านล่างนี้

*     กรุณาชำระเงินภายใน 3 วันหลังจากสั่งซื้อ หากครบกำหนดรายการสั่งซื้อของท่านจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ
**   หลังชำระเงิน กรุณาแจ้งยืนยันการชำระเงินอีกครั้ง พร้อมทั้งเก็บสลิปหรือหลักฐานการการชำระเงินไว้จนกว่าท่านจะได้รับสินค้า
*** ลูกค้าไม่ต้องแนบสลิปตอนแจ้งชำระเงิน เพราะทางร้านมีระบบบัญชีธนาคารออนไลน์ ตรวจสอบรายการโอนกับธนาคารได้โดยตรง

 

 

เมื่อท่านได้ทำการชำระเงินแล้ว กรุณาแจ้งชำระเงินผ่านหน้าเว็บ  คลิ๊กที่นี่ เพิ่อแจ้งชำระเงินทันที หรือส่ง SMS มาที่ 089-1602557

ธนาคาร สาขา เลขที่บัญชี ประเภทบัญชี ชื่อบัญชี
ทหารไทย ศรีจันทร์-ขอนแก่น 464-2-14084-4 ออมทรัพย์ นายอัครวัตร คูณคำตา
กสิกรไทย อโศก-กรุงเทพ 741-2-40040-7 ออมทรัพย์ นางสาวรจเรศ เนตรทอง
กรุงเทพ เอ็มโพเรียม-กรุงเทพ 096-022432-7 ออมทรัพย์ นางสาวรจเรศ เนตรทอง
กรุงไทย เทสโก้โลตัส นาดี อุดรธานี 981-1-59679-4 ออมทรัพย์ นางสาวรจเรศ เนตรทอง
เพื่อความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายและมิตรภาพที่ดีต่อกัน กรุณาทำความเข้าใจเงื่อนไข

Calcium ในอาหารเสริม
ในกรณีที่เราคิดว่า เรากินอาหารแล้วจะได้ calcium ไม่ครบ หรือในกรณีของคนที่มีความจำเป็นต้องเสริมจริงๆ (เช่น คนวัยทอง) ก็ควรจะหา calcium มากินเสริมเอาไว้เพื่อป้องกันปัญหาทั้งหลาย

จะเห็นว่า ในท้องตลาด มีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ให้ calcium เสริม โดยเฉพาะยาเม็ด calcium จะมีมากมายหลายยี่ห้อ แล้วเราจะเลือกอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อเราและคุ้มค่าเงินที่สุด

หลักในการเลือก
1. อันดับแรก ก็คล้ายๆกับเรื่อง calcium ในอาหาร คือต้องดู 
bioavailability ซึ่งส่วนใหญ่พิจารณาจากความสามารถในการดูดซึม (absorbability) ของ calcium ในรูปแบบเกลือต่างๆ ซึ่งแต่เดิมเข้าใจว่า เกลือรูปที่ละลายน้ำไม่ดี จะดูดซึมน้อย แต่ต่อมา เราพบว่าการละลายของเกลือในรูปต่างๆมีผลต่อการดูดซึมไม่แตกต่างกันมากนัก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกลือรูปไหนร่างกายก็สามารถดูดซึมเอา calcium เข้าไปได้ในอัตราส่วนพอๆกัน (ดังนั้น ยี่ห้อไหนที่ราคาแพง และมีจุดขายว่าดูดซึมดีกว่ายี่ห้ออื่น ก็ไม่ควรเชื่อมาก)
2. 
ความสะดวกในการกิน เม็ดยาจะต้องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป จะต้องมีปริมาณ calcium ที่เพียงพอ มีจำนวนเม็ดต่อ dose ให้น้อยที่สุด เมื่อเรามาพิจารณาตรงนี้ จะเห็นว่าในยาเม็ด calcium carbonate จะมีปริมาณ calcium อยู่ 40% ของเม็ดยา จึงมีขนาดเล็ก ในขณะที่ calcium gluconate จะมีขนาดใหญ่มาก (ปัจจุบัน นิยมทำเป็นยาเม็ดฟู่เพื่อช่วยให้กินง่ายขึ้น)
3. ราคา ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์มากมายหลายยี่ห้อ ที่มีรูปแบบเกลือและรูปแบบผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถเลือกอักที่เราชอบให้เหมาะสมกับราคาได้ เช่น หากมีเงินน้อย ก็อาจกินยาเม็ด calcium carbonate แบบธรรมดา (บางคนว่ากินยาก/รสไม่อร่อย) หากมีเงินหน่อย อาจเลือกกินแบบเคี้ยวหรือแบบเม็ดฟู่ก็ได้ 
แต่ที่สำคัญคือ อย่าโดนหลอกว่าผลิตภัณฑ์ของเขามีการดูดซึมดีกว่าคนอื่นเท่านั้นครับ ของที่ราคาแพงกว่า น่าจะมาจากรูปแบบของยา ที่ทำให้กินง่าย/สะดวก/รสดี มากกว่าที่จะมาพูดเรื่องการดูดซึมครับ

ผลข้างเคียงของยาเม็ด calcium
โดยทั่วไป ในขนาดที่กินปกติ ไม่เกินวันละ 2 กรัม ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ (ยกเว้นในคนที่เป็นโรคไต), ยาเม็ด calcium carbonate อาจทำให้ท้องผูกได้ (แก้ได้โดยการกินน้ำ/ แบ่งกินหลายๆมื้อ)

ปริมาณที่ควรได้รับยาต่อวัน 
ไม่ควรเกิน 2.5 กรัม และในแต่ละมื้อที่กินยา ไม่ควรเกิน 500 มก. และการให้ยาแบบ ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 4 ครั้ง (1 x 4) จะให้การดูดซึม calcium ดีกว่าการกินแบบ ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง (2 x 2)

นอกจากนี้ การกิน calcium ร่วมกับสารอาหารอื่นๆ อาจทำให้การดูดซึม calcium ลดลงได้เช่น เหล็ก(Fe) และสังกะสี(Zn) อาจลดการดูดซึม calcium ได้ 40-50 %

 ราคาแบบ 60 เม็ด ราคา 330 บาท  

ราคาแบบ 120 เม็ด ราคา 550 บาท

Caltrate Plus with Vitamin D & Minerals 

เป็นแคลเซียมในรูปแบบเม็ดสามารถรับประทานได้ง่าย ทั้งยังเสริมวิตามิน D และแร่ธาตุนานาที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟัน

แคลเซียมมีประโยชน์อย่างไรต่อตัวคุณ

แคลเซียมนั้นเป็น สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพฟันและกระดูกให้ดีอยู่เสมอ ร่างกายนำแคลเซียมมาใช้ในการสร้างกระดูก เช่นเดียวกับเนื้อเยื่ออื่นๆ ในร่างกาย เนื้อเยื่อกระดูกมีการดูดแคลเซียมกลับคืนและสร้างกระดูกอย่างต่อเนื่อง และการมีปริมาณแคลเซียมที่พอเพียงอยู่ตลอดเวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อ รักษาวงจรนี้ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงระยะเวลาของชีวิตที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน เวลาที่สำคัญที่สุด คือ ระยะเวลาในการตั้งครรภ์และให้นมบุตร ตามมาด้วยช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เด็กหญิงและชายส่วนใหญ่มีส่วนสูงและขนาดกระดูกเพิ่มขึ้น ในอัตราที่รวดเร็ว กลุ่มอายุที่สำคัญอันดับสาม ได้แก่ เด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระดูกและฟันเติบโตในอัตราที่รวดเร็ว ร่างกายมีความต้องการแคลเซียมเพื่อการทำงานอื่นๆ เช่น การจับตัวเป็นลิ่มเลือด การส่งผ่านของกระแสประสาท การทำงานของกล้ามเนื้อ การเต้นตามปกติของหัวใจ การกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน และการกระตุ้นปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ต่างๆ

แคลเซียมกับมวลกระดูก

·         วัยเด็ก  สะสมมวลกระดูดให้ได้มากที่สุด เพื่อใช้สร้างกระดูดในการเจริญเติบโต

·         วัยรุ่น  มีมวลกระดูดสูงสุดและยังสามารถสะสมมวลกระดูดได้อีกเล็กน้อย

·         ผู้ใหญ่-ผู้สูงอายุ  ไม่มีการสร้างสะสมมวลกระดูก แต่มีการดึงแคลเซียมออกจากกระดูก

·         สตรีมีครรภ์  เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารแต่ยังมีการดึงแคลเซียมจากกระดูก

 

ประโยชน์ของแคลเซียม

·         รักษา ข้อเสื่อม ( Osteoarthritis ) ข้อเสื่อมตั้งแต่ชายหญิงที่มีอายุตั้งแต่40ปีขึ้นไปจะพบมากขึ้นเมื่อ อายุเยอะขึ้น สาเหตุจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายโครงสร้างของข้อเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีน้ำสะสมในข้อเพิ่มมากขึ้นกระดูกงอเกิดปกติ กล้ามเนื้อและเอ็นหย่อนยานการเคลื่อนไหวทำได้จำกัดมีอาการปวดและบวม

·         รักษาโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกพรุนหรือกระดูกโปร่งบาง จะมีปริมาณเนื้อกระดูกลดลง และ โครงสร้างภายในของกระดูกเปลี่ยนแปลง ทำให้ความแข็งแรงของกระดูกลดน้อยลง เกิดกระดูกหักได้ง่ายขึ้น ในระยะแรกผู้ป่วยมักจะปกติดี จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุทำให้มีกระดูกหักเกิดขึ้น ทั้งที่เป็นอุบัติเหตุไม่รุนแรง เช่น ลื่นล้ม หรือ ตกเก้าอี้ แล้วเกิดกระดูกข้อมือหัก กระดูกสะโพกหัก โรคกระดูกพรุนพบได้บ่อยเป็นลำดับที่ 2 รองจากโรคข้อเสื่อม โดยที่ไม่แสดงอาการผิดปกติ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้ถึงร้อยละ 30-40 ขณะที่ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้เพียงร้อยละ 10 และพบว่าในผู้หญิงไทยอายุ 55 ปีเป็นโรคนี้ ร้อยละ 20 แต่ในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 65 ปี เป็นโรคนี้ถึงร้อยละ 60 จะเห็นว่าทุกคนมีโอกาสที่จะมีโรคกระดูกพรุนแอบแฝงอยู่  การสูญเสียเนื้อกระดูก เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันและรักษาตั้งแต่เริ่มแรกก่อนจะเกิดกระดูกหัก ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนก็คือ ได้รับแคลเซียมน้อยเกินไป 
ปริมาณแคลเซี่ยมที่ควรได้รับในแต่ละวันจะแตกต่างกัน เช่น คนทั่วไปควรได้รับวันละ 800 มิลลิกรัม เด็กและวัยรุ่นควรได้รับวันละ 800-1,200 มิลลิกรัม ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับวันละ 1,500-2,000 มิลลิกรัม  ผู้หญิงช่วงหมดประจำเดือนควรได้รับวันละ 1,500 มิลลิกรัม และ ผู้สูงอายุควรได้รับวันละ 1,000 มิลลิกรัม

·         รักษา รูมาตอย ( Rheumatoid) ข้ออักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งที่มีอาการเจริญงอกงามของเยื่อยุข้อมอย่าง มากและจะลุกลามเข้าทำลายกระดูก และข้อแรกๆมีอาการอ่อนเพลียปวดตามข้อมีอาการฝืดข้อเป็นเวลานานในตอนเช้า เมื่อมีอาการชัดเจนข้อจะมีการบวมร้อนและปวดโรคนี้สามารถเป็นได้กับทุกข้อของ ร่างกาย พบได้ตั้งแต่เด็กถึงวัยชราส่วนมากจะพบในผู้ป่วยวัยกลางคนเพศหญิงมากกว่าเพศ ชาย

 

ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำให้คนไทยบริโภค

·         วัยเด็ก1-3 ปี 500 มก.

·         วัยเด็ก 4-8ปี 800 มก.

·         วัยรุ่น9-18 ปี 1000 มก

·         ผู้ใหญ่19-50 800 มก

·         ผู้ใหญ่ 50 ปี ขึ้นไป 1000 มก

·         สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร 800 มก.



อาหารที่มีแคลเซี่ยมสูง เช่น น้ำนม กุ้งแห้ง กะปิ ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้ทั้งตัว เต้าหู้เหลือง น้ำเต้าหู้ หรือ อาหารจานเดียว เช่น ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วใส่ไข่ ข้าวราดไก่ผัดกระเพรา ขนมจีนน้ำยา เป็นต้น
อย่างไรก็ตามถ้าได้รับแคลเซียมจากแหล่งอาหารประจำวันอย่างพอเพียง ก็ไม่จำเป็นต้องได้แคลเซียมเสริม นอกจากบางคนอาจได้แคลเซียมจากอาหารไม่พอเพียง หรือ มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนอย่างชัดเจน 
ถ้าได้รับแคลเซี่ยมอย่างเพียงพอนานประมาณ 18 เดือน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดกระดูกหักได้ 
ในผู้สูงอายุ ควรได้รับ แคลเซี่ยม ร่วมกับ ฮอร์โมนเอสโตรเจน  แคลซิโทนิน หรือ วิตามินดี จึงจะได้ผลดียิ่งขึ้น 
จากการศึกษาพบว่าในผู้ที่กินยาเม็ดแคลเซียมน้อยกว่าวันละ 2 กรัม ไม่พบว่ามีนิ่วในทางเดินปัสสาวะมากขึ้น และ ไม่ทำให้เกิดกระดูกงอกเพิ่มมากขึ้น (กระดูกงอกมักเกิดจากข้อเสื่อม ไม่เกี่ยวกับยาเม็ดแคลเซี่ยม)

การเลือกชนิดของแคลเซียมเสริม ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อจะเลือกใช้แคลเซียมเสริม ได้แก่
1. ชนิดและปริมาณของเกลือแคลเซียม จะทำให้ร่างกายได้รับแตกต่างกันไป เช่น 
แคลเซียมคาร์บอเนต ( calcium carbonate ) ได้รับแคลเซียมร้อยละ 40
แคลเซียมซิเตท ( calcium citrate )  ได้รับแคลเซียมร้อยละ 21
แคลเซียมแลคเตท ( calcium lactate )  ได้รับแคลเซียมร้อยละ 13
แคลเซียมกลูโคเนต ( calcium gluconate ) ได้รับแคลเซียมร้อยละ 9
2. ความสะดวกในการกิน จำนวนเม็ดที่ต้องกินในแต่ละวันขึ้นอยู่กับปริมาณแคลเซียมที่ต้องการ ถ้าเป็นยาที่มีแคลเซียมต่ำ เม็ดยาที่ต้องกินก็จะต้องมากขึ้น ทำให้ไม่สะดวก และ ทำให้ความสม่ำเสมอในการกินแคลเซียมน้อยลง

3. ราคา ราคาของยาเม็ดแคลเซียมแตกต่างกันมาก โดยทั่วไป ยาเม็ดธรรมดาจะราคาถูกว่ายาเม็ดแคปซูล ส่วนยาเม็ดฟู่จะราคาแพงที่สุด สำหรับผู้สูงอายุที่อาจมีปัญหาการดูดซึมของยาอาจจำเป็นต้องใช้แบบเม็ดฟู่ 
4. ส่วนผสมอื่น ๆ ในยาเม็ดแคลเซียม เช่น วิตามินดี วิตามินซี แร่ธาตุอื่น ๆ ในผู้ที่ขาดสารเหล่านี้ ก็จะได้ประโยชน์เพิ่มเติม แต่ผู้ที่ไม่ขาดสารเหล่านี้ก็ไม่จำเป็น เพราะยาเม็ดแคลเซียมที่มีส่วนผสมเสริมจะมีราคาแพงขึ้นไปด้วย 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่
ไม่เกิน 5 นาที
สมัครสมาชิก

เข้าร่วมร้านค้า

สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม1,085,647 หน้า
ผู้ชมทั้งหมด516,909 ครั้ง
เปิดร้าน3 ก.พ. 55
ร้านค้าอัพเดท9 ก.ค. 57

Categories

กลุ่มประโยชน์และการรักษา [186]



Go to Top