Blackmores Odourless Fish Oil 1000 mg 60 แคปซูล ไม่มีกลิ่นคาวปลา ลดไขมันในเลือดโดยเฉพาะไขมันจำพวกไตรกรีเซอไรด์

หมวดหมู่ BLACKMORES แบล็คมอร์ส
ราคาปกติ 720.00 บาท
ลดเหลือ 530.00 บาท
อัพเดตล่าสุด 23 ก.ค. 2556
ความพึงพอใจ ยังไม่มีความคิดเห็น
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า

Blackmore Odourless Fish Oil 1000 mg บรรจุ 80 แคปซูล

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

-  ไร้กลิ่นคาวปลา

-  ขจัดกลิ่นคาวปลาด้วยกลิ่นจากธรรมชาติ ( กลิ่นวานิลลาผสม

มะนาว ) ไม่ใช้สารเคมี

-  กลิ่นหอมน่ารับประทาน

-  ผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่ว มั่นใจในคุณภาพ

ใน  1  แคปซูล ประกอบด้วย

น้ำมันปลา 1000 มก. ให้โอเมก้า 3 ปริมาณ 300 มก.

ประกอบด้วย  Eicosapentaenoic acid ( EPA ) 180  mg

                    Docosahexaenoic acid ( DHA ) 120  mg

เลขที่ อย. 10- 3 - 08338 - 1 - 0021


น้ำมันปลาไม่มีกลิ่น มีไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 เข้มข้น 300 มก. แต่งกลิ่นวนิลาไร้กลิ่นคาว บำรุงสมอง ช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือด ลดคลอเรสเตอรอล ลดและป้องกันภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก ป้องกันเส้นเลือดในสมองแตก ลดปวดไมเกรน ลดปวดข้อเสื่อมรูมาตอยด์ ผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่ว คุณจึงมั่นใจได้

คุณค่ากรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลาทะเล
โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นปัญหาสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการบริโภค ทำให้ระดับไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง น้ำมันปลาจึงถูกนำมาใช้ในการช่วยลดระดับไขมันชนิดนี้

นอกจากกรดไขมันโออาก้า-3 ในน้ำมันปลามีคุณสมบัติในการลดการจับตัวของเกล็ดเลือดและสร้างสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัวได้ดี จึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้จากการศึกษาวิจัยพบว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ในสัตว์น้ำทุกชนิดมีปริมาณสูงกว่าในสัตว์บกและสัตว์ปีก
โดยทั่วไปในเนื้อปลามีโปรตีนประมาณร้อยละ 17-23 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ จึงทำให้ระบบการย่อยอาหารของเราไม่ต้องทำงาน หนัก ปลาเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เราจัดปลาไว้ในอาหารหลักหมู่ที่หนึ่งในประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วโปรตีนในเนื้อปลาจะถูกนำไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
ไขมันจากเนื้อปลาทะเลมีองค์ประกอบแตกต่างจากน้ำมันพืชทั่วไป คือ ไขมันจากปลาทะเลจะมีกรดไขมันจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะกรดไขมันประเภทโอเมก้า-3 ซึ่งมีอยู่ปริมาณมาก กรดไขมันที่สำคัญในกลุ่มนี้ได้แก่กรด โดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid : DHA) และกรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid : EPA)

เนื้อเยื่อของปลามีน้ำมันหรือไขมันแตกต่างจากไขมันสัตว์ชนิดอื่น เนื่องจากอาหารของปลา คือแพลงตอนและสาหร่าย ซึ่งหลายชนิดสามารถสังเคราะห์ไขมันกลุ่มโอเมก้า- 3 ได้ นอกจากนี้เมตาบอลิซึ่มของปลาเองก็มีส่วนมากในการสร้างเสริมและรักษากรดไขมันเหล่านี้ไว้ ปลาทะเลที่มีมันมาก เช่น ปลาแซลมอล ปลาแมคเคอเรล ปลาเทราท์ ปลาทูน่า มีไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 สูงถึง 1 - 4 กรัม/เนื้อปลา 100 กรัม
ปลาทะเลจะมีโอเมก้า- 3 มากกว่าปลาน้ำจืด เพราะแพลงตอนและสาหร่ายในน้ำจืดสังเคราะห์โอเมก้า- 3 ได้น้อยกว่าแพลงตอนและสาหร่ายในน้ำเค็ม นอกจากอาหารของปลาจะเป็นตัวส่งเสริมให้ปลาสร้างโอเมก้า-3 แล้ว กระบวนการเผาผลาญอาหารของปลายังเป็นกระบวนการที่สามารถรักษาคุณค่าของโอเมก้า-3 ที่ร่างกายผลิตขึ้นมาได้อย่างดีอีกด้วย

น้ำมันปลาเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนหัวหรือเนื้อปลาทะเลและจะมีปริมาณ DHA และ EPA แตกต่างกันไปตามชนิดของเนื้อปลา โดยพบว่าในจำนวนมิลลิกรัม/100 กรัม ปลาแซลมอน มีปริมาณ DHA 748 มิลลิกรัม และ EPA 492 มิลลิกรัม
ความสำคัญของโอเมก้า-3 อยู่ที่กรดไขมันที่ชื่อ EPA และ DHA เพราะ EPA มีคุณสมบัติในการลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด ทำให้เลือดมีการแข็งตัวช้าลง จึงช่วยลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดได้

คุณประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า-3

ปลามีไขมันต่ำและมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหรือที่เรียกว่าโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งเราไม่สามารถสร้างเองได้ นอกจากกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในปลาช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอลอันเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดอุดตัน ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองแตกได้ กรดไขมันโอเมก้า-3 ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากได้แก่

ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

จากการวิจัยในปี 1998 พบว่าการบริโภคปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหัวใจลงได้ นอกจากนั้น จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอเรกอนยังระบุว่าในไขมันปลามีกรดไขมันอีพีเอ (EPA) ซึ่งเป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า- 3 ที่ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอไรด์ลงได้ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจด้วยเช่นกัน

บำรุงสมอง

ผลวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่ากรดไขมันดีเอชเอ (DHA) ในโอเมก้า- 3 มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะในส่วนของความจำและการเรียนรู้
บรรเทาอาหารของโรคไขข้ออักเสบ
จากการวิจัยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าน้ำมันปลาช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบจนสามารถลดการใช้ยาบางส่วนลงได้
ลดการอักเสบของโรคผิวหนัง
การศึกษาวิจัยระบุว่าการกินปลาที่มีไขมันมากจะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน (หรือโรคเรื้อนกวาง) เพราะปลามีวิตามินดีจากกรดไขมันโอเมก้า-3 ในปริมาณมาก

ช่วยลดความเครียด

มีบางรายงานการวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันปลาว่าสามารถลดความเครียดในผู้ป่วยโรคประสาทที่มักจะอาละวาดทำให้อารมณ์เย็นลงได้

บรรเทาอาการซึมเศร้า

การศึกษาหนึ่งของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพบว่าการขาด โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมอง อาจเป็นสาเหตุทำให้คนมีอาการซึมเศร้า สมาธิสั้น และขาดความสามารถในการอ่านหนังสือได้

EPA
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid : EPA) เป็นกรดไขมันที่มีคุณสมบัติลดการสร้างลิโปโปรตีนในตับและลดปริมาณของคอเลสเตอรอลในกระแสโลหิต จึงป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ไม่สามารถหาได้จากไขมันในเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ผลของการศึกษาพบว่าปลาต่างๆ ทั้งปลาทะเลและปลาน้ำจืดมีองค์ประกอบของอีพีเอสูง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของไขมัน 0.15-10 เมื่อเปรียบเทียบการวิเคราะห์หาปริมาณของอีพีเอในอาหารหมู่เดียวกัน ไม่พบว่ามีในไข่ไก่ทั้งฟอง และไข่แดง แต่ในไข่ขาวพบ 0.96% และไม่พบในน้ำนมวัวและถั่วเหลือง จากสถิติขององค์การอาหารและเกษตรของสหประชาชาติ (United Nations I God and Agriculture Organization) นอกจากนี้ มูลนิธิโรคหัวใจแห่ง อังกฤษ (The British Heart Foundation) รายงานว่าชาวญี่ปุ่นบริโภคปลามากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งสูงถึง 73 ก.ก./คน/ปี มีอัตราการตายด้วยโรคหัวใจเพียง 100 คน ในประชากร100,000 คน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ชาวอังกฤษบริโภคปลาประมาณ 18 ก.ก./คน/ปี พลเมืองตายด้วยโรคหัวใจสูงถึง 500 คนในประชากร 100,000 คน

DHA

กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid : DHA) สำหรับกรดไขมันดีเอชเอนี้มีส่วนพิสูจน์คำกล่าวที่ว่า "กินปลาแล้วสมองดี" พบว่าสารดีเอชเอในผนังเซลล์ทั่วร่างกาย ช่วยทำให้เซลล์มีความไวต่อการรับสัญญาณประสาท นอกจากนั้น ยังพบว่ามี DHA ปริมาณสูงในจอตา และที่สำคัญที่สุดคือเป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมองถึง 65% และกรดไขมันชนิดนี้เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่ได้จากอาหารที่บริโภคคือจากปลา สมองมนุษย์มีไขมันชนิดนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ครึ่งหนึ่งก่อนกำเนิด ส่วนที่เหลือจะได้มาในช่วงปีแรกของชีวิต เพราะฉะนั้นดีเอชเอจึงมีความสำคัญมากต่อสตรีในระยะตั้งครรภ์ และมารดาในระยะให้นมบุตรที่ช่วยให้สมองทารกพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์

รู้หรือไม่ ?

น้ำมันจากเนื้อปลาทะเลแตกต่างจากน้ำมันตับปลา คือ น้ำมันตับปลาเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลาทะเลบางชนิด เช่น ปลาค็อด (cod fish) น้ำมันปลาเหล่านี้มีวิตามินเอและวิตามินดีในปริมาณสูง แต่ก็มีกรดไขมันพวกที่มีพันธะคู่ 1 พันธะเป็นปริมาณสูงด้วย ซึ่งการบริโภควิตามินเอและวิตามินดีมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเป็นพิษจากวิตามินเอและวิตามินดีได้ ซึ่งแตกต่างจากน้ำมันจากปลาทะเลที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาเทราท์ ที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ในปริมาณสูงที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถึงแม้ปลาทุกชนิดจะมีค่าไขมันและพลังงานต่ำกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม ชนิดของปลายังมีผลต่อปริมาณไขมันของปลาที่มีอยู่ในเนื้อปลาสดซึ่งผู้บริโภคควรเลือกทานตามความเหมาะสม นักวิจัยและนักโภชนาการแนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มกรดโอเมก้า-3 ในอาหารคือเพิ่มการรับประทานปลาแทนการรับประทานเนื้อสัตว์บก และการรับประทานปลาทะเล สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวได้

Blackmores Omega Cardi ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล
โอเมก้า-3เข้มข้นจากน้ำมันปลาทะเล 1000 มก.
ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 300 มก. ประกอบด้วย

  • กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก(EPA) 180 มก.
  • โดโคซาเฮกซาอิโนอิก (DHA) 120 มก.

แต่งกลิ่นวนิลาผสมมะนาว

ขนาดรับประทาน
 

วันละ 1-3 แคปซูลทุกวันพร้อมอาหาร

สินค้านี้ยังไม่มีคนวิจารณ์
ชื่อ
คำถาม
รายละเอียด
  • ถาม
สินค้านี้ยังไม่มีคนถามคำถาม

วิธีการชำระเงิน

หลังทำรายการสั่งซื้อเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถชำระเงินได้เลยครับ ไม่จำเป็นต้องรอการติดต่อกลับจากทางร้านให้เสียเวลา เพราะทางร้านมีระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ  สินค้าที่กดทำรายการสั่งซื้อได้จะมีของพร้อมส่งทุกรายการ  โดยท่านสามารถเลือกชำระเงินผ่านตู้ ATM, เคาร์เตอร์ธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ หรือ Internet Banking ที่ท่านสะดวกเข้ามาที่บัญชีที่ระบุไว้ด้านล่างนี้

*     กรุณาชำระเงินภายใน 3 วันหลังจากสั่งซื้อ หากครบกำหนดรายการสั่งซื้อของท่านจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ
**   หลังชำระเงิน กรุณาแจ้งยืนยันการชำระเงินอีกครั้ง พร้อมทั้งเก็บสลิปหรือหลักฐานการการชำระเงินไว้จนกว่าท่านจะได้รับสินค้า
*** ลูกค้าไม่ต้องแนบสลิปตอนแจ้งชำระเงิน เพราะทางร้านมีระบบบัญชีธนาคารออนไลน์ ตรวจสอบรายการโอนกับธนาคารได้โดยตรง

 

ธนาคาร เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี สาขา ประเภทบัญชี
ทหารไทย 464-2-14084-4 นายอัครวัตร คูณคำตา ศรีจันทร์-ขอนแก่น ออมทรัพย์
กสิกรไทย 741-2-40040-7 นางสาวรจเรศ เนตรทอง อโศก-กรุงเทพ ออมทรัพย์
กรุงเทพ 096-022432-7 นางสาวรจเรศ เนตรทอง เอ็มโพเรียม-กรุงเทพ ออมทรัพย์
กรุงไทย 981-1-59679-4 นางสาวรจเรศ เนตรทอง เทสโก้โลตัส นาดี อุดรธานี ออมทรัพย์
เพื่อความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายและมิตรภาพที่ดีต่อกัน กรุณาทำความเข้าใจเงื่อนไข

เข้าร่วมร้านค้า

สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม274,668 หน้า
ผู้ชมทั้งหมด122,001 ครั้ง
เปิดร้าน3 ก.พ. 55
ร้านค้าอัพเดท28 ส.ค. 56

Categories

กลุ่มประโยชน์และการรักษา [169]



Go to Top